ถ. สังฆาทิเสสของภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่สละกรรม เมื่อสวดประกาศ
ครบ 3 จบ เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ต. สังฆาทิเสสของภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่สละกรรมเมื่อสวดประกาศ
ครบ 3 จบ เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กาย วาจา และจิต
ถ. สังฆาทิเสสของภิกษุรู้ประพฤติตามภิกษุผู้ทำลาย ไม่สละกรรม
เมื่อสวดประกาศครบ 3 จบ เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ต. สังฆาทิเสสของภิกษุผู้ประพฤติตามภิกษุผู้ทำลาย ไม่สละกรรม
เมื่อสวดประกาศครบ 3 จบ เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือเกิดแต่กาย วาจา
และจิต
ถ. สังฆาทิเสสของภิกษุผู้ว่ายาก ไม่สละกรรมเมื่อสวดประกาศครบ
3 จบ เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ต. สังฆาทิเสสของภิกษุผู้ว่าอยาก ไม่สละกรรมเมื่อสวดประกาศครบ
3 จบ เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กาย วาจาและจิต
ถ. สังฆาทิเสสของภิกษุผู้ประทุษร้ายสกุล ไม่สละกรรมเมื่อสวดประ-
กาศครบ 3 จบ เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ต. สังฆาทิเสสของภิกษุผู้ประทุษร้ายสกุล ไม่สละกรรมเมื่อสวดประ-
กาศครบ 3 จบ เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กาย วาจา และจิต.
สังฆาทิเสส 13 สิกขาบท จบ
เสขิยวัตร
[1,233] . . .ถามว่า ทุกกฏของภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อถ่ายอุจ-
จาระ ปัสสาวะ หรือบ้วนเขฬะ ลงในน้ำ เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ตอบว่า ทุกกฏของภิกษุผู้อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
หรือบ้วนเขฬะลงในน้ำ เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิดแต่กาย กับจิต
มิใช่วาจา.
เสขิตวัตร จบ
ปาราชิก 4
[1,234] ถามว่า ปาราชิก 4 เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ตอบว่า ปาราชิก 4 เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 คือ บางทีเกิดแต่กายกับ
จิต มิใช่วาจา 1 บางทีเกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย 1 บางทีเกิดแต่กาย
วาจา และจิต 1.
สังฆาทิเสส 13
[1,235] ถามว่า สังฆาทิเสส 13 เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ตอบว่า สังฆาทิเสส 13 เกิดด้วยสมุฏฐาน 6 คือ บางทีเกิดแต่กาย
มิใช่วาจา มิใช่จิต 1 บางทีเกิดแต่วาจา มิใช่กาย มิใชจิต 1 บางทีเกิดแต่
กายกับวาจา มิใช่จิต 1 บางทีเกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา 1 บางทีเกิดแต่
วาจากับจิต มิใช่กาย 1 บางทีเกิดแต่กาย วาจา และจิต 1.
อนิยต 2
[1,236] ถามว่า อนิยต 2 เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ตอบว่า อนิยต 2 เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 คือ บางทีเกิดแต่กายกับจิต
มิใช่วาจา 1 บางทีเกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย 1 บางทีเกิดแต่กาย 1 วาจา
และจิต 1.